ปริศนาไอยคุปต์ โบราณที่เกี่ยวข้องกับการสร้างโลกและปกครองโลกหลังความตาย เทพอียิปต์โบราณ ชื่อเทพอียิปต์ ในตำนานเทพเจ้าอียิปต์โบราณเชื่อว่า…เทพอวตารลงมายังโลกมนุษย์ คล้ายกับความเชื่อของอินเดียในศาสนาฮินดู เช่น ” โอซิริส ” มาจุติเป็นมนุษย์และปกครองอียิปต์จนรุ่งเรือง แต่เซธ น้องชายขี้อิจฉาวางแผนฆ่า จากนั้นศพก็ถูกหั่นทิ้งทั่วอียิปต์ ส่วนเทพเจ้าองค์สุดท้ายที่จุติลงมาเป็นมนุษย์เพื่อปกครองอียิปต์ “ฮอรัส” ซึ่งทำสงครามกับ “เซธ” มาอย่างยาวนานเพื่อกอบกู้อาณาจักรอียิปต์ และหลังจากสิ้นสุดยุครุ่งเรืองของฮอรัส เหล่าทวยเทพก็อนุญาตให้มนุษย์ปกครองอียิปต์ด้วยกันเอง Sarakady Light ชวนคุณซื้อตั๋วทัวร์อียิปต์โบราณ เขาเป็นบุคคลสำคัญที่สามารถสร้างประวัติศาสตร์อียิปต์ให้สนุกยิ่งขึ้น เทพอียิปต์โบราณ
ปริศนาไอยคุปต์ เทพีไอซิส (Isis)
ลักษณะเด่น : ปริศนาไอยคุปต์ รูปร่างเป็นสตรี สวมหมวกเป็นรูปบัลลังก์ (มีทั้งรูปเก้าอี้บัลลังก์บนศีรษะ บ้างก็เป็นวงกลมคือดวงอาทิตย์อยู่กลางเขาวัว)
ความหมาย : เทพีแห่งเวทมนตร์ ชื่อเทพเจ้าอียิปต์
บทบาท : เป็นเทพีผู้ปกป้องกษัตริย์อียิปต์และพระโอรส “ฮอรัส”เปรียบเสมือนเทพีแห่งมารดาผู้มีพลังในการเยียวยารักษา
ตำนาน : ธิดาของเทพรา มเหสีเทพโอซิริส อียิปต์เคยมีความเชื่อเรื่องเทพอวตารมาปกครองโลกมนุษย์ โดยเทพีไอซิส อวตารมาเป็นมนุษย์และเป็นน้องสาวแท้ๆ ของเทพโอซิริสในภาคมนุษย์ ทั้งสองครองคู่กันปกครองอาณาจักรอียิปต์เจริญรุ่งเรือง และมีพระโอรสคือ เทพฮอรัส ผู้เป็นเทพอวตารมาเช่นกัน เทพอนูบิส
เทพเจ้าอียิปต์ มีอะไรบ้าง วีรกรรมของเทพีไอซิสภาคมนุษย์ คือการตามกอบกู้ร่างพระสวามี เทพโอซิริสภาคกษัตริย์อียิปต์ที่ถูกน้องชาย(เทพเซธ) ล่อลวงฆ่าถ่วงน้ำแถมตามสับร่างเป็นชิ้นเพื่อโค่นอำนาจแย่งราชบัลลังก์ ก่อนจะนำร่างของเทพโอซิริสในตอนเป็นกษัตริย์อียิปต์กลับมาประกอบพิธีกรรมเพื่อส่งวิญญานของโอซิริสเข้าสู่ดินแดนมรณะหลังความตาย และเทพโอซิริสก็กลายเป็นราชันหลังความตายผู้ทำหน้าที่พิพากษาความดี-ความชั่วของมนุษย์ ส่งมนุษย์ที่ตายแล้วไปสู่ดินแดนชีวิตนิรันดร์
ในภาพวาดที่เล่าเรื่องชีวิตหลังความตายตามความเชื่อของอียิปต์ เทพีไอซิส เป็นผู้รอรับร่างคนตายต่อจากเทพอนูบิส และพาร่างนั้นขึ้นเรือล่องข้ามแม่น้ำไปสู่ดินแดนมรณะ เพื่อเข้าสู่กระบวนการพิพากษา ที่เทพโอซิริสจะจับหัวใจของคนตายรายนั้นชั่งตวงเทียบกับขนนก ถ้าหัวใจคนนั้นเบากว่าขนนก ก็จะได้สิทธิฟื้นคืนชีพ วิญญาณกลับเข้าร่าง และได้อยู่ในดินแดนชีวิตนิรันดร์ เทพของอียิปต์
วิหารบูชาเทพไอซิส : วิหารที่ถูกสร้างอุทิศให้แก่เทพไอซิส คือ วิหารฟิเล (Philae) ซึ่งเคยถูกจมน้ำ หลังจากอียิปต์สร้างเขื่อนอัสวาน เทพเจ้าเซธ (เขื่อนกักน้ำแห่งแรกของโลก) ต่อมาวิหารฟิเลถูกรื้อไปสร้างใหม่ที่เกาะฟิเล
เทพเจ้าอนูบิส (Anubis)
ลักษณะเด่น : ศีรษะเป็นหมาในสีดำ ร่างกายเป็นมนุษย์ผู้ชาย
ความหมาย : เทพแห่งความตาย เจ้าแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์
บทบาท : ต้อนรับผู้ตายและปกป้องร่างกายไม่ให้เน่าเปื่อย เป็นเทพองค์แรกที่มนุษย์จะได้พบหลังความตาย เทพเจ้าอนูบิส
ตำนาน : เดิมทีอนูบิสเป็นเทพที่เกี่ยวกับความตายเฉพาะในส่วนของฟาโรห์เท่านั้น ต่อมาจึงเป็นเทพที่ดูแลโลกหลังความตายของชาวไอยคุปต์ทั่วไปด้วย และในภาพสลักเกี่ยวกับการทำมัมมี่ก็มักจะมีรูปเทพอนูบิสเป็นผู้ทำหน้าที่ดองศพทำมัมมี่แต่อันที่จริงหน้าที่หลักของเทพอนูบิส คือต้อนรับผู้ตาย เข้าสู่โลกหลังความตาย และการดูแลรักษาศพไม่ให้เน่าเปื่อย ก่อนที่จะส่งต่อร่างนั้นให้เทพไอซิส ซึ่งจะพาร่างคนตายนั่งเรือข้ามแม่น้ำไปสู่แดนมรณะ เพื่อพบกับเทพเจ้าโอซิริส ผู้พิพากษาว่าวิญญาณของใครจะขึ้นสู่สวรรค์
ภาพวาดเทพอนูบิสจะปรากฏอยู่ในภาพวาดเล่าเรื่องชีวิตหลังความตาย ทั้งในสุสานของฟาโรห์ ที่หุบผากษัตริย์ และในภาพวาดบนกระดาษปาปิรุส ชื่อ Hunefer, Book of the Dead ซึ่งพบหลักฐานในเมืองธีบส์ อียิปต์ วาดช่วง 1,290 ปีก่อนคริสตกาลปัจจุบันเป็นคอลเลกชันที่ตั้งแสดงที่พิพิธภัณฑ์บริทิช พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติของอังกฤษ ปัจจุบัน เทพในอียิปต์
เทพเจ้าฮอรัส (Horus)
ลักษณะเด่น : หัวเหยี่ยว, ร่างกายของมนุษย์. ตาซ้ายคือดวงอาทิตย์ ตาขวาคือพระจันทร์
ความหมาย : เทพเจ้าเบื้องบนตามคำแปลของชื่อเทพเจ้าแห่งท้องฟ้า
บทบาท : ตัวแทนของฟาโรห์ เชื่อมโยงกับกษัตริย์และเชื่อว่าเป็นผู้กอบกู้อาณาจักรอียิปต์จากความชั่วร้ายในยุคแห่งเทพเจ้า
ตำนาน : มีตำนานเล่าว่า… กษัตริย์ผู้ปกครองอียิปต์ในสมัยโบราณ ฮอรัส (5,000 ปีที่แล้วก่อนจักรวรรดิอียิปต์โบราณ) เป็นเทพเจ้าและฮอรัสเป็นเทพเจ้าองค์สุดท้ายที่อวตารลงมาปกครองอียิปต์ ช่วยอาณาจักรอียิปต์จากเซธ กันยา (บิดาของฮอรัส พี่ชายของเทพโอจิริสปะอวตาร) ขึ้นครองบัลลังก์ Horus ช่วยอียิปต์จาก Seth และปกครองอียิปต์ที่เจริญรุ่งเรือง เมื่อสิ้นรัชสมัยของฮอรัส เหล่าทวยเทพอนุญาตให้มนุษย์ปกครองอียิปต์ด้วยกันเอง
วิหารฮอรัส : วิหารฮอรัสเป็นหนึ่งในวิหารที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ที่สุดในอียิปต์ สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ปโตเลมีที่ 3 ซึ่งเป็นยุคสุดท้ายของอาณาจักรอียิปต์ ประมาณ 237 ปีก่อนคริสตกาล (ผู้ก่อตั้งราชวงศ์ทอเลมี) คือชาวกรีกหลังจากการพิชิตอียิปต์โดยกองทัพกรีกของนายพลทอเลมี อเล็กซานเดอร์มหาราช พระนางคลีโอพัตราผู้มีชื่อเสียงเป็นฟาโรห์องค์สุดท้ายของราชวงศ์ทอเลมี และอาณาจักรอียิปต์)
เทพีฮาเธอร์ (Hathor)
ลักษณะเด่น : รูปร่างเป็นสตรี บนศีรษะมีเขาวัวและดวงอาทิตย์อยู่ตรงกลาง (มีความคล้ายกับเทพีไอซิส)
ความหมาย : เทพแห่งความรัก ความเป็นแม่ ศิลปะและดนตรี
บทบาท : เทพแห่งความรัก ความเป็นแม่ และเป็นเทพีแห่งสตรีทั้งมวล เป็นเทพแห่งการเจริญพันธุ์และการให้กำเนิด รวมทั้งเรื่องสุขภาพ ความงาม โดยมีนักบวชที่บูชาเทพฮาเธอร์มีทั้งนักบวชชายและหญิงมีงานเทศกาลต่างๆ ที่เฉลิมฉลองเพื่อบูชาเทพฮาเธอร์ อีกทั้งยังเป็นเทพผู้คุ้มครองฟาโรห์
ตำนาน : หนึ่งในเทพเก่าแก่ที่อยู่คู่ชาวไอยคุปต์มานาน เทพราสร้างเทพีฮาเธอร์มาจากน้ำตาของพระองค์ ปริศนาไอยคุปต์ การบูชาเทพฮาเธอร์ปรากฏมาตั้งแต่ในสมัยอาณาจักรเก่า หรือยุคที่แผ่นดินอียิปต์รวมกันและมีฟาโรห์เป็นเจ้าปกครองอาณาจักรเป็นครั้งแรก เมื่อราว 3,000 ปีก่อนคริสตกาล ให้การเคารพบูชาเทพฮาเธอร์ในฐานะเทพของอียิปต์บน (เทพอียิปต์ล่างคือ บาสต์) และยังได้รับการเคารพบูชาเรื่อยมาจนถึงสมัยราชวงศ์ทอเลมีปกครองอียิปต์ ยุคสุดท้ายการมีฟาโรห์ เทพฮาเธอร์ เป็นเทพแห่งเดือน เฮทารา (Hethara) เดือนที่ 3แห่งปีตามปฏิทินอียิปต์